• Admin
• 17 สิงหาคม 2018
• การท่องเที่ยว , อาหาร/เครื่องดื่ม

นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมที่ทำให้เชียงรายมีชื่อเสียงไปทั่วโลกแล้ว เชียงรายได้กลายเป็นแหล่งปลูกกาแฟอราบิก้าที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในไทยและระดับโลกในปัจจุบัน เมื่อได้กลิ่นหอมของกาแฟที่ชงสดใหม่ในมือแล้วลองหลับตานึกถึงภาพดอยสูงกว้างไกลสุดตากันดูนะคะ เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เราก็พาคุณมาถึงแหล่งปลูกกาแฟที่ดีที่สุดแล้วล่ะค่ะ นับจากต้นกล้ากาแฟพันธุ์อราบิก้าต้นแรกที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทาน จนถึงการล้มหายของฝิ่น ในปัจจุบัน ดอยช้างมีชื่อเสียงด้านการเพาะปลูกและผลิตเมล็ดกาแฟ ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าให้กลิ่นหอมเฉพาะตัว ภายใต้การนำของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย ณ “บ้านดอยช้าง” ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 บนความสูง 1,200-1,700 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ด้วยสัดส่วนความลาดชันและอุณหภูมิที่เหมาะสมของพื้นที่ ศูนย์วิจัยแห่งนี้จึงประสบความสำเร็จในการผลักดันให้ดอยช้างก้าวขึ้นเป็นแหล่งกาแฟดิบชั้นนำ เมื่อเข้าสู่ส่วนผลิตเมล็ดกาแฟ เราก็ได้เรียนรู้มากมาย ตั้งแต่การชมเรือนเพาะชำกล้ากาแฟ แปลงอนุรักษ์พันธุ์กาแฟ การตากเมล็ดกาแฟ การคั่ว ไปจนถึงการชิมกาแฟที่ชงสดใหม่ นอกจากนี้ ยังได้ชมการปลูกผลิตผลและไม้ดอกเมืองหนาวอีกด้วย นอกจากไร่กาแฟแล้ว บนดอยช้างมีทิวทัศน์ที่สวยงามตราตรึงใจเอาเสียมากๆ ด้วยภาพของดอยที่สลับซับซ้อน มีหุบเขาในช่องระหว่างดอย มีดอกท้อและดอกบ๊วยผลิบานในช่วงฤดูหนาว วิถีชีวิตบนดอยเรียบง่ายผสมผสานวัฒนธรรมของชาวไทย ชาวอาข่าและชาวลีซอเข้าด้วยกัน ผู้มาเยือนจะเลือกพักในบ้านพักที่มีบริการอยู่หลายแห่งหรือจะกางเต็นท์ที่ศูนย์วิจัยฯ ก็ได้ ซึ่งคนในพื้นที่ได้กระซิบกับเราว่าจุดชมวิวสูงสุดบนดอยช้างมีภาพพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่สวยงามมาก โครงการพัฒนาดอยตุงที่ “ดอยตุง” ซึ่งเริ่มต้นด้วยพระราชดำริของสมเด็จย่าของชาวไทย เป็นแหล่งผลิตกาแฟอราบิก้าชั้นนำของไทย และในปัจจุบัน กาแฟอราบิก้าจากดอยตุงก็ได้รับการรับรองเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI (กาแฟจากป่าธรรมชาติ) ในระดับสากลจากสหภาพยุโรป ความพิเศษของกาแฟอราบิก้าจากดอยตุงคือ การปลูกบนระดับความสูง 1,200-1,400 เมตรจากระดับน้ำทะเลร่วมกับต้นไม้อื่นๆ ที่ให้ร่มเงา ซึ่งทำให้กาแฟอราบิก้าจากดอยตุงมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ การเที่ยวชมโครงการฯ จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความรู้ในทุกขั้นตอน หากตรงกับฤดูกาลเก็บเกี่ยวในเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ เราจะได้เก็บ “คอฟฟี่เชอร์รี่” หรือผลกาแฟสุกกับมือด้วยค่ะ ซึ่งตลอดช่วงฤดูหนาวดอยตุงจะเคล้าไปด้วยสายหมอก ดอกไม้ใบหญ้าจะสวยงามสะพรั่งไปทั่วทั้งดอย เห็นด้วยไหมคะว่า หากคนไทยเราตั้งใจจะทำอะไรแล้ว ผลที่ได้มักมหัศจรรย์เสมอ ขอเพียงเราตั้งใจจริง รู้จริง ขยันและอดทน และโดยเฉพาะเมื่อเรามีทรัพยากรและต้นทุนทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์พร้อมอยู่แล้ว การพัฒนากาแฟซึ่งมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงในปัจจุบันก็ช่วยให้ชาวบ้านในที่ห่างไกลมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนได้ด้วยค่ะ